สัปดาห์ที่ 2


บทที่ 1

แนวคิดการออกแบบการเรียนการสอน


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แนวคิดการออกแบบการเรียนการสอน
การออกแบบคืออะไร 
          การออกแบบเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ประสบการณ์ความรู้  และทักษะอย่างกว้างขวาง  เพื่อที่แสวงหาทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดภายในข้อจำกัดที่มีอยู่  การออกแบบเกี่ยวข้องการระบุปัญหา  และทำปัญหาให้กระจ่างประกอบไปด้วยการตอบสนองที่เต็มไปด้วยความคิดสร้าง สรรค์  ตลอดจนการทดสอบแก้ไขปัญหานั้น  และปรับปรุงวิธีการแก้ปัญหาแล้วเริ่มต้นออกแบบใหม่อีก  การออกแบบเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ที่บ่อยครั้งอาจใช้ความจริง หรือการแก้ปัญหาที่รู้ๆกันอยู่แล้ว แต่การที่รู้จักผนวกวิธีแก้ไขปัญหาหลายๆ วิธีเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะอย่างต้องอาศัยความคิดเชิงสร้างสรรค์ การออกแบบจึงเป็นสิ่งที่มากไปกว่าการแก้ปัญหาธรรมดาๆ


  
ทำไมต้องเปลี่ยนแปลงการออกแบบ (why design change?) 
          มีเหตุผลหลากหลายว่า  ทำไมจึงต้องเปลี่ยนแปลงการออกแบบ  เหตุผลหนึ่งคือ  การเปลี่ยนแปลงความต้องการของสังคม เช่น ความต้องการในเรื่องของรถยนต์  ปัจจุบันสังคมเปลี่ยนเป็นชอบรถเก๋งที่มีขนาดเล็กลงสิ่งเหล่านี้ทำให้ต้องออก แบบเพื่อตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจ  ในขณะที่เมืองมีความแออัดมากขึ้น  รถยนต์ที่มีขนาดเล็กที่หาที่จอดได้ง่าย ในจุดนี้อาจจะแย้งด้วยว่า ผู้ออกแบบเป็นผู้สร้างสรรค์การเปลี่ยนแปลง และสังคมตอบต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ เช่น แฟชั่นต่างๆ เหตุผลที่สองคือ การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ซึ่งสามารถประยุกต์เข้ากับผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมได้

การออกแบบมีผลกระทบต่อชีวิตอย่างไร
           โลกที่ปราศจากเครื่องคำนวณ  โทรศัพท์  รถไฟ  เครื่องบิน เครื่องป้องกันบ้าน  การโฆษณา  ไมโครเวฟ  เป็นโลกที่ยากแก่การจินตนาการ  เพราะว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้ประโยชน์มหาศาลแก่พวกเราประชาชนเพียงจำนวนเล็ก น้อยที่ชอบทำอะไรโดยปราศจากผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว การ ออกแบบโดยทั่วไปที่ประสบความสำเร็จต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์  ขนาด  ราคา  สิ่งที่ปรากฏมา  และความปลอดภัย(Dunn, 1991 : 18) เป็นต้น ส่วน การออกแบบการเรียนการสอน (instructional design)  เป็นกระบวนการของการป้องกันด้วยการวางแผนแก้ไขปัญหาก่อนการเรียนการสอน โดยการวิเคราะห์สถานการณ์  หรือเงื่อนไขการเรียนรู้อย่างเป็นระบบสมรรถภาพที่ต้องการผู้ออกแบบการเรียน รู้การสอนคือพฤติกรรมที่มีบูรณาการ  และเกี่ยวข้องกับการกลั่นกรอง  การวิเคราะห์  การจัดการ  การสังเคราะห์  สารสนเทศ  และเนื่องจากความหลากหลายในทักษะต่างๆ

ความต้องการในการออกแบบการเรียนการสอน
            ความต้องการจำเป็นในการออกแบบการเรียนการสอน คือ การแก้ปัญหาคุณภาพการเรียนการสอนในสถานการณ์ที่หลากหลาย เพื่อให้การเรียนการสอนมีคุณภาพด้วยวิธีการเชิงระบบที่ให้ผลอันยิ่งใหญ่ต่อ การพัฒนาปัจเจกบุคคล และมนุษย์โดยทั่วไปและตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้ว่ามนุษย์เรียนรู้ได้ อย่างไร
 
นิยามการออกแบบการเรียนการสอน
            ริตา ริชชีย์(Rita Richey, 1986 : 9)  ได้นิยามการออกแบบการเรียนการสอนว่า หมายถึง วิทยาศาสตร์การสร้างสรรค์รายละเอียดที่ชี้เฉพาะเพื่อการพัฒนา  การประเมินผลและการบำรุงรักษาสถานการณ์  หรือเงื่อนไขที่อำนวยความสะดวกให้กับการเรียนรู้ในหน่วยของเนื้อหาวิชา(Unit of subject matter)  ทั้งหน่วยใหญ่และหน่วยย่อย  การนิยามของริชชีย์เป็นการให้ความกระจ่างกับความสัมพันธ์ของนักวิจัยซึ่งไม่ ได้เกี่ยวข้องกับการออกแบบการเรียนการสอน แต่เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือบนพื้นฐานของความรู้ 

ประโยชน์ของการออกแบบการเรียนการสอน
            การลงทุนที่ประสบความ สำเร็จ หมายถึงการที่ผู้เกี่ยวข้องทุกคนได้ประโยชน์หากเปรียบเทียบกับการทำงานทาง ธุรกิจแล้ว ประโยชน์ย่อมหมายถึงกำไร เจ้าของกิจการได้กำไรลูกค้าพอใจ ในราคา คุณภาพ และการบริาการ คนงานและลูกจ้างได้รับค่าจ้างแรงงานที่เหมาะสม และมีความรู้สึกที่ดีต่อบริษัท ในทำนองเดียวกัน นักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนย่อมได้ประโยชน์จากการเรียนการสอน ไม่มากก็น้อย ดังที่ ไชยยศ เรืองสุวรรณได้กล่าวว่า
         1.  ผู้บริหารหรือผู้จัดการโปรแกรมการศึกษาและการเรียนการสอนย่อต้องการความมั่น ใจในประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของการเรียนโดยใช้งบประมาณประหยัดที่สุด
        2.  นักออกแบบการสอน ย่อมต้องการความมั่นใจว่า โปรแกรมที่ออกแบบไว้เป็นโปรแกรมที่น่าพอใจ ซึ่งตัวบ่งชี้สำคัญในความพอใจก็คือผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ในเวลาที่เหมาะ สม
        3.  ครูผู้สอนย่อมต้องการที่จะเห็นผู้เรียนได้รับความรู้ ความสามารถอื่นๆ ที่จำเป็น รวมทั้งต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เรียน
        4.  ผู้เรียนต้องการความสำเร็จในการเรียน ได้รับ ประสบการณ์การเรียนด้วยความสนุกสนานและพอใจ ( ไชยยศ, 2533 : 14 )
 


แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนโดยทั่วไป
            ออกแบบการเรียนการสอนนำความรู้จากหลายสาขาวิชามาประยุกต์เข้าด้วยกันเป็น ขั้นตอนกระบวนการเชิงระบบเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน  โดยพื้นฐานแล้ววิธีการเชิงระบบกำหนดให้ต้องระบุว่า  จะเรียนอะไร  วางแผนการสอนว่าจะยอมให้การเรียนรู้อะไรเกิดขึ้น  วัดผลการเรียนรู้เพื่อตัดสินว่า  การเรียนรู้นั้นบรรลุตามจุดประสงค์หรือไม่  และกลั่นกรองตัวสอดแทรก(intervention) จนกระทั่งบรรลุจุดประสงค์ จากลักษณะนี้เองจึงทำให้เกิดแบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนทั่วไป (Generic Instruction Design Model : ID model) ขึ้น
 
บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอน
            บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอน(designer's role)   สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่นำเสนอว่าต้องอาศัยเทคนิค  หรือไม่ต้องอาศัยเทคนิค  และขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของทีมการออกแบบ  เนื้อหาที่ต้องใช้เทคนิคสูง  ผู้ออกแบบจำเป็นต้องให้คำแนะนำในการออกแบบกับผู้ชำนาญการด้าน เนื้อหา(content expert)  คือ
          1. ผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา  และมีสมรรถภาพในการออกแบบการเรียนการสอนและเทคโนโลยี อีกทั้งยังเป็นผู้ที่รู้บทบาทของการออกแบบด้วย
          2. ผู้ออกแบบการเรียนการสอน  ที่ได้รับการร้องขอให้ทำงานในด้านเนื้อหาที่อาจจะมีความคุ้นเคย  แต่ผู้ออกแบบยังคงมีความรู้สึกมีความจำเป็นที่จะทำงานกับผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา
          3. ผู้ออกแบบอาจจะได้รับการร้องขอให้พัฒนาหรือวิจัยในด้านเนื้อหาที่ไม่มีความคุ้นเคย  และดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือก  และทำงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาจำนวนมาก
 

งานและผลิตผลของการออกแบบการเรียนการสอน
            งานของผู้ปฏิบัติการ ออกแบบการเรียนการสอนอาจจะหลากหลายในความต้องการด้านความรู้ความชำนาญ  ผลิตผลที่ได้และประสบการณ์ของงาน  ผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะวิเคราะห์ภาระงานภายใต้การนิเทศของ ผู้จัดการโครงการในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและการพัฒนา
          - งานออกแบบ
               พิสัยของงาน(job)  เป็นไปตามสถานการณ์  และระดับที่แตกต่างกันของผู้ชำนาญการบางครั้งผู้ออกแบบการเรียนการสอนทำ หน้าที่เหมือนเป็นผู้ชำนาญการในขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการ ในบางงานเรียกผู้ออกแบบว่าเป็นผู้ปฏิบัติที่มีสมรรถภาพในการดำเนินโครงการ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด พิสัยของงานไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ที่มีความเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ แต่บางงานต้องการระดับความแตกต่างของผู้ชำนาญการ (expertise)
          - ผลิตผลของการออกแบบ
                ไม่ว่าจะเป็นงานที่ตั้งสมมติฐานไว้  หรืองานในหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของผลิตผลก็ตาม  จะมีขอบเขตที่แตกต่างและซับซ้อน  งานการออกแบบการเรียนการสอนก็เช่นกัน ขอบเขตรวมถึงความแตกต่างของขนาดและเนื้อหาความซับซ้อนรวมถึงความแตกต่างของ หลักสูตรหรือสื่อ ในระดับเล็กที่สุดของขอบเขต คือ แผนการสอน (lesson plans) หน่วยหรือชุดโมดุล (modules) ระดับต่อไปรวมถึงรายวิชา (courses) และหน่วย (unit)
 
สมรรถภาพของผู้ออกแบบการเรียนการสอน
            การออกแบบการเรียนการสอนเป็นกระบวนการทางเชาว์ปัญญา  ที่ต้องการทักษะความคิดในระดับสูง(Nelson, Macliaro and Shermen, 1998 : 29-35)  ในการปฏิบัติกิจกรรมนี้จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับทักษะ  และความถนัดตลอดจนการฝึกอบรมและการศึกษา วอลลิงตัน(Wallington, 1981 : 28-33)
             - ความถนัดของบุคคล
           การออกแบบการเรียนการสอนต้องอาศัยความถนัด(aptitude)  ผู้ออกแบบการเรียนการสอนจำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถในการคิดทั้งใน เชิงรูปธรรมและนามธรรม
             - ประกาศนียบัตร
           เราจำเป็นต้องรู้ถึงสมรรถภาพของนักออกแบบการเรียนการสอนตามความต้องการ  เพื่อที่จะได้เพิ่มพูนสมรรถภาพเหล่านั้น  สมาคมเพื่อการปฏิบัติและการเรียนการสอนแห่งชาติ
 
สรุป
             ความรู้เบื้องต้นในการออกแบบการเรียนการสอน  ประกอบด้วยความต้องการจำเป็นสำหรับการเรียนการสอน  นิยามการออกแบบการเรียนการสอน  ประโยชน์ของการออกแบบการเรียนการสอน  แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนโดยทั่วไป  บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอน  งานและผลิตผลของการออกแบบการเรียนการสอนและสมรรถภาพของผู้ออกแบบการเรียน การสอนความต้องการจำเป็นของการออกแบบการเรียนการสอน  หรือการแก้ปัญหาคุณภาพการเรียนการสอนในสถานการณ์ที่หลากหลาย  เพื่อให้การเรียนการสอนมีคุณภาพ  บรรลุจุดประสงค์ตามเจตนารมณ์ของผู้สอน  และหลักสูตร
     การออกแบบการเรียนการสอน  หมายถึง  กระบวนการแก้ปัญหาการเรียนการสอน  โดยการวิเคราะห์สถานการณ์  หรือเงื่อนไขในการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ  แล้วจึงวางแผนการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบเพื่อให้การเรียนการสอนบรรลุจุด หมายโดยอาศัยความรู้จากหลายทฤษฎี เช่น ทฤษฎีการเรียนรู้  ทฤษฎีการเรียนการสอน  ทฤษฎีการติดต่อสื่อสาร  ตลอดจนทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

 แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นพื้นฐานของการออกแบบการเรียนการสอนเชิงระบบที่มีผู้นิยมใช้มาก มีดังนี้
1.รูปแบบการออกแบบการเรียนการสอนแบบสามัญ(A Common Model of Instructional Design)เป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาจากแนวคิดของเมเกอร์ (Mager, 1975)
โดยเมเกอร์ใช้หลักการออกแบบคือ การตั้งคำถามพื้นฐานสำหรับนักออกแบบการเรียนการสอนที่จะต้องหาคำตอบ ดังนี้
1) เรากำลังจะไปไหน (อะไรคือเป้าหมายของการเรียนการสอน)
2) เราจะบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร (อะไรคือกลยุทธ์และสื่อกลาง)
3) เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว (เครื่องมือการประเมินเป็นอย่างไร เราจะประเมินและปรับปรุงวัสดุอุปกรณ์การสอนอย่างไร)
จากคำถามข้างต้น เมเกอร์จึงได้กำหนดเป็นกิจกรรมที่จะต้องปฏิบัติในกระบวนการออกแบบการเรียนการสอน เป็น 3 ขั้นตอน ที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ดังนี้
ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์การเรียนการสอน เพื่อกำหนดเป้าหมายที่ต้องการไปถึง โดยสิ่งที่ผู้ประเมินควร
วิเคราะห์ ได้แก่ สภาพแวดล้อมหรือบริบทในการเรียนรู้ (learning contexts) ตัวผู้เรียน (learner) และ
ภาระงาน (learning task) หรือสิ่งที่ผู้เรียนควรรู้และควรทำได้
ขั้นที่ 2 การออกแบบการเรียนการสอน เพื่อตอบคำถามว่าเราจะไปถึงเป้าหมายได้อย่างไร
 ขั้นนี้จึงเป็นขั้นที่ผู้ออกแบบต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการเรียนการสอนอย่างไร
โดยจะต้องพิจารณาถึงสื่อและกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่ใช้สร้างประสบการณ์ให้กับผู้เรียน
นอกจากนั้นยังต้องคำนึงถึงการจัดลำดับก่อนหลังของการนำเสนอกิจกรรม
และการบริหารชั้นเรียน เช่น จะจัดให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่างไร เช่น การเรียนเป็นกลุ่ม หรือ การเรียนเป็นรายบุคคล เป็นต้น
ขั้นที่ 3 การประเมินผลการเรียนการสอน เพื่อตอบคำถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าไปถึงเป้าหมายแล้ว
ขั้นนี้เป็นการประเมินทั้งการเรียนการสอนและผลการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น
การประเมินผลสามารถแบ่งได้เป็น 2 ระยะ คือ
1.การประเมินระหว่างดำเนินการหรือการประเมินความก้าวหน้า (formative evaluation)
 มีจุดมุ่งหมายเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาปรับปรุงการเรียนการสอน
2.การประเมินผลสรุป (summative evaluation) คือ การประเมินหลังเสร็จสิ้นการดำเนินการ
 มีจุดมุ่งหมายเพื่อตัดสินผลการดำเนินการและตัดสินผลการเรียนรู้ว่าได้บรรลุเป้าหมายอย่างไร
2.รูปแบบการออกแบบการเรียนการสอนแบบแอดดี (ADDIE model)
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

        การออกแบบการเรียนการสอนตามรูปแบบแอดดี(ADDIE model) มีลักษณะคล้ายกับกระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ  รูปแบบนี้จึงเป็นรูปแบบที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนในเรื่องต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะมีผู้นิยมนำไปใช้ในการออกแบบสื่อ วัสดุการเรียนการสอน เช่น การออกแบบชุดการเรียนการสอน
การออกแบบบทเรียนแบบโปรแกรม เป็นต้น ตลอดจนนำไปใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนในระดับมหภาค คือ ระบบการศึกษาในชุมชนและการออกแบบการเรียนการสอนในระดับห้องเรียน เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ รูปแบบการออกแบบการเรียนการสอนเเบบแอดดี ประกอบด้วยกิจกรรมในการดำเนินงาน 5 กิจกรรม ได้แก่ การวิเคราะห์ (Analysis) การออกแบบ (Design) การพัฒนา(Development) การนำไปใช้ (Implementation) และการประเมินผล (Evaluation)
โดยกิจกรรมที่จะต้องปฏิบัติในแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดของการออกแบบการเรียนการสอน ดังต่อไปนี้
ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์ (Analysis) การวิเคราะห์เป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการออกแบบการเรียนการสอน ผู้ออกแบบจะต้องกำหนดความจำเป็นในการเรียน ทำการวิเคราะห์เนื้อหาหรือกิจกรรมการเรียนการสอน คุณลักษณะของผู้เรียน วัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนเพื่อรวบรวมข้อมูล สำหรับใช้เป็นแนวทางในการกำหนดขอบเขตของบทเรียน ขั้นการวิเคราะห์ประกอบด้วยขั้นตอนย่อย ดังนี้
 1.1 วิเคราะห์ความจำเป็น (Need Analysis) คือการวิเคราะห์เพื่อกำหนดเลือกว่าควรจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับอะไร โดยอาจหาข้อมูลจากความต้องการของผู้เรียน หรืออาจหาข้อมูลจากการกำหนดความจำเป็น ปัญหาขัดข้อง หรืออุปสรรคที่ทำให้การเรียนการสอนไม่บรรลุตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้และพิจารณาว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องจัดการเรียนการสอน หากจำเป็นหรือสมควรจัด และควรจัดอย่างไร
 1.2 วิเคราะห์เนื้อหา หรือ กิจกรรมการเรียนการสอน (Content and Task Analysis) คือ การวิเคราะห์เพื่อจัดการเรียนการสอนให้ครอบคลุม หรือสอดคล้องกับความต้องการ ความจำเป็นในการเรียนการสอน โดยพิจารณาอย่างละเอียดด้านเนื้อหา มีการแบ่งเนื้อหาเป็นหัวข้อใหญ่ และหัวข้อย่อย ๆ เพื่อให้มีความชัดเจน กำหนดเลือกกิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสมที่จะให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
1.3 วิเคราะห์ผู้เรียน (Analysis Leamer Characteristic) เป็นการวิเคราะห์เพื่อสรุปเป็นข้อมูลสำหรับการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียน โดยควรวิเคราะห์ทั้งลักษณะทั่วไป เช่น อายุ ระดับความรู้ความสามารถ เพศ สังคม วัฒนธรรม เป็นต้น และควรวิเคราะห์ ลักษณะเฉพาะของผู้เรียนด้วย เช่น ความรู้พื้นฐาน ทักษะความชำนาญ หรือความถนัด รูปแบบการเรียน ทัศนคติ เป็นต้น
1.4 วิเคราะห์วัตถุประสงค์ (Analysis Objective) วัตถุประสงค์ของการเรียนการสอน คือ จุดหมายปลายทางที่กำหนดไว้ให้ผู้เรียนและผู้สอนรู้ว่าเมื่อเรียนบทเรียนนั้น ๆ แล้วจะเกิดการเรียนรู้อะไรบ้าง ดังนั้นการกำหนดจุดวัตถุประสงค์จึงต้องมีการวิเคราะห์อย่างละเอียดและรอบคอบ โดยอาจกำหนดจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายหลักของการเรียนการสอนก่อน แล้วจึงกำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่สามารถประเมินผลได้ชัดเจนเป็นรูปธรรมว่าผู้เรียนบรรลุการเรียนตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ โดยวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแยกเป็น ๓ ด้าน คือ
       1) วัตถุประสงค์ด้านพุทธิพิสัย คือ พฤติกรรมเกี่ยวกับความรู้ ความเข้าใจ
       2) วัตถุประสงค์ด้านจิตพิสัย คือ พฤติกรรมเกี่ยวกับความรู้สึก ค่านิยม ทัศนคติ
       3) วัตถุประสงค์ด้านทักษะพิสัย คือ พฤติกรรมเกี่ยวกับการกระทำหรือการปฏิบัติ
1.5 วิเคราะห์สภาพแวดล้อม (Analysis Environment) วัตถุประสงค์การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมในการสอน
 เพื่อเป็นการเตรียมการล่วงหน้าว่า สถานที่ เวลา และบริบทในการเรียนการสอนที่จะดำเนินการนั้นจะอยู่ในสภาพใด เช่น ขนาดห้องเรียน
อุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนที่จะใช้คืออะไรโดยผู้ออกแบบการเรียนการสอนต้องปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้
1) การวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการในการเรียนการสอนหรือการฝึกอบรม
2) การวิเคราะห์ระบบ สิ่งแวดล้อม และสภาพขององค์กร เพื่อพิจารณาถึงทรัพยากรและอุปสรรคต่าง ๆ
3) การศึกษาลักษณะของกลุ่มประชากร
4) การวิเคราะห์เป้าหมายและจุดประสงค์ว่าเป็นการเรียนรู้ในลักษณะใด เช่น การเรียนรู้เนื้อหา การเรียนรู้ทักษะ
หรือการเรียนรู้ที่เป็นความต้องการเฉพาะ
ขั้นที่ 2 การออกแบบ (Design)
ขั้นตอนการออกแบบประกอบด้วย การสร้างจุดประสงค์การเรียนรู้ กำหนดเครื่องมือวัดประเมินผล แบบฝึกหัด เนื้อหา วางแผนการสอน และเลือกสื่อการสอน ขั้นตอนการออกแบบควรจะทำอย่างเป็นระบบและมีเฉพาะเจาะจง โดยความเป็นระบบนี้ หมายถึงตรรกะ มีระเบียบแบบแผนของการจำแนก การพัฒนา และการประเมินแผนยุทธวิธีที่วางไว้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โดยผู้ออกแบบการเรียนการสอนต้องปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้
1) การกำหนดเป้าหมาย จุดประสงค์ที่สามารถสังเกตได้ วัดได้
2) การจัดลำดับเป้าหมายและจุดประสงค์ให้ง่ายต่อการเรียนและการปฏิบัติ
3) การวางแผนการประเมินผลการเรียนรู้และการปฏิบัติ
4) การพิจารณากลวิธีการเรียนการสอนให้เหมาะกับเนื้อหา การจัดกลุ่มการทำกิจกรรมของผู้เรียนในลักษณะต่าง ๆ ใน ลักษณะกลุ่มและรายบุคคล
5) การคัดเลือกสื่อการเรียนการสอน
ขั้นที่ 3 การพัฒนา (Development)
ขั้นตอนการพัฒนาคือขั้นที่ผู้ออกแบบสร้างส่วนต่างๆ ที่ได้ออกแบบไว้ในขั้นของการออกแบบซึ่งครอบคลุมการ สร้างเครื่องมือวัดประเมินผล สร้างแบบฝึกหัด สร้างเนื้อหา และการพัฒนาโปรแกรมสำหรับสื่อการสอน เมื่อเรียบร้อยทำการทดสอบเพื่อหาข้อผิดพลาดเพื่อนำผลไปปรับปรุงแก้ไข
โดยผู้ออกแบบการเรียนการสอนต้องปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้
1) การสร้างสื่อ/กิจกรรมหรือโปรแกรมการเรียนการสอนตามที่ได้ออกแบบไว้
2) การทดสอบ (try out) สื่อ/กิจกรรมหรือโปรแกรมการเรียนการสอนกับกลุ่มเป้าหมาย
3) การปรับปรุงสื่อ/กิจกรรมหรือโปรแกรมการเรียนการสอน
ขั้นที่ 4 การนำไปใช้ (Implementation)
โดยผู้ออกแบบการเรียนการสอนต้องปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้
1) การเผยแพร่สื่อ/กิจกรรมหรือโปรแกรมการเรียนการสอนที่สร้างขึ้น เช่น การติดตั้ง การซ่อมบำรุงสื่อ
การจัดอบรมให้ครูรู้วิธีการใช้สื่อ/กิจกรรมหรือโปรแกรมการเรียนการสอนที่สร้างขึ้น
การให้คำแนะนำและนิเทศการใช้สื่อ/กิจกรรมหรือโปรแกรมการเรียนการสอน
2) การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนให้ครูยอมรับสื่อ/กิจกรรมหรือโปรแกรมการเรียนการสอนที่สร้างขึ้นและนำสื่อไปใช้
ขั้นที่ 5 การประเมิน (Evaluation)
โดยผู้ออกแบบการเรียนการสอนต้องปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้
1) การสร้างเครื่องมือเพื่อประเมินสื่อ/กิจกรรมหรือโปรแกรมการเรียนการสอนตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้
2) การทดสอบ (try-out) สื่อ/กิจกรรมหรือโปรแกรมการเรียนการสอนและเครื่องมือวัดประเมินผลกับกลุ่มตัวอย่าง
เพื่อวินิจฉัยผลการเรียนรู้ที่เกิดจากผู้เรียน และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความสำเร็จและความล้มเหลวในการใช้โปรแกรมการเรียน
การสอนที่สร้างขึ้นเพื่อนำไปปรับปรุงให้สมบูรณ์
3) การประเมินภายหลังการนำสื่อ/กิจกรรมหรือโปรแกรมการเรียนการสอนไปใช้กับกลุ่มประชากร
3.รูปแบบการออกแบบการเรียนการสอนของดิคและแครี (Dick and Carey’s instructional design model)
ดิค แครีและแครี(Dick, Carey, & Carey, 2001) ได้เสนอขั้นตอนการออกแบบการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในการปฏิบัติงานและเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางเพราะมีขั้นตอนที่แน่นอน ชัดเจน  ในการออกแบบการเรียนการสอนตามรูปแบบของดิคและแครี มี 10 ขั้นตอน ดังนี้
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การออกแบบการเรียนการสอนตามรูปแบบของดิคและแครี มี 10 ขั้นตอน
1) กำหนดเป้าหมาย 
โดยการประเมินความต้องการเพื่อใช้ในการกำหนดเป้าหมาย การสอนคือการพิจารณาเป้าหมายของการเรียนรู้ว่า ต้องการให้ผู้เรียนทำอะไรได้ภายหลังจากที่ผู้เรียนได้รับ
การจัดการเรียนการสอนเสร็จสิ้นแล้ว การกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้สามารถ
นำข้อมูลจากการประเมินความต้องการของผู้เรียน ปัญหาในการเรียนรู้ของผู้เรียน
ข้อมูลจากผู้ทำงานในด้านที่เรียนมาและการวิเคราะห์บทเรียนใหม่ว่าต้องการให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะในด้านใด
2) วิเคราะห์การเรียนการสอน 
ขั้นตอนนี้ผู้ออกแบบการเรียนการสอนต้องพิจารณาถึงลำดับขั้นตอนการเรียนการสอนที่ทำให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ที่กำหนดไว้  จากนั้นจึงพิจารณาว่าทักษะ ความรู้และเจตคติซึ่งเป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนในการเรียนคืออะไร
3) วิเคราะห์ผู้เรียนและบริบทการเรียนรู้
ผู้ออกแบบการเรียนการสอนต้องวิเคราะห์ คือ ผู้เรียน ได้แก่ ทักษะ ความชอบและเจตคติของผู้เรียน และสภาพของสิ่งแวดล้อมในการเรียนการสอน และการนำทักษะที่เรียนไปใช้ ข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์ต่อการสร้างยุทธศาสตร์การสอน
4) เขียนจุดประสงค์การเรียนรู้เชิงปฏิบัติ 
ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์การเรียนการสอนการวิเคราะห์ผู้เรียน และบริบทการเรียนรู้
จะนำมาใช้ในการกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้เชิงปฏิบัติ ซึ่งเป็น ข้อความที่ต้องเขียนอย่าง
ชัดเจนว่าภายหลังที่ผู้เรียนได้รับการจัดการเรียนการสอนแล้ว ผู้เรียนต้องมี ทักษะใด เงื่อนไขในการแสดงทักษะเป็นอย่างไรและระบุเกณฑ์ของการปฏิบัติที่วัดความสำเร็จของ
ผู้เรียนเป็นอย่างไร
5) พัฒนาเครื่องมือในการประเมินผล
 การประเมินความสามารถในการปฏิบัติของผู้เรียน หลังจากได้รับการจัด
การเรียนการสอนในบทเรียนแล้ว จะต้องเป็นการประเมินตามจุดประสงค์ การเรียนรู้ที่ได้กำหนดไว้ เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลต้องวัดการปฏิบัติของผู้เรียนได้
6) พัฒนากลยุทธ์การเรียนการสอน
จากข้อมูลทั้ง 5 ขั้นตอนดังกล่าวข้างต้น นำไปใช้ใน การกำหนดขั้นตอนในการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุจุดประสงค์ปลายทางที่ตั้งไว้ ขั้นตอนการเรียนการสอนโดยทั่วไปประกอบด้วย กิจกรรมก่อนการเรียน การนำเสนอข้อมูล การฝึกฝนและให้ ข้อมูลย้อนกลับ การทำแบบทดสอบ และกิจกรรมหลังการเรียน การสร้างกลยุทธ์การเรียนการสอนอยู่บน พื้นฐานของทฤษฎีการเรียนรู้ งานวิจัยด้านการเรียนการสอน สื่อการเรียนการสอน เนื้อหาที่เรียน และ ลักษณะของผู้เรียน ข้อมูลเหล่านี้นำมาใช้ในการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน และการสร้างปฏิสัมพันธ์ ของผู้เรียนในการเรียนรู้
7) พัฒนาและเลือกสื่อ วัสดุ อุปกรณ์การเรียนการสอน 
ขั้นนี้ครูจะใช้กลยุทธ์การเรียนการสอนเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนและสื่อการเรียนการสอนที่รวมถึง สื่อการเรียนรู้ของผู้เรียนและสื่อที่ครูใช้ในการสอน เช่น ใบงาน ชุดการเรียน เครื่องฉายสไลด์วีดีโอเทปและสื่อที่ใช้ผ่านคอมพิวเตอร์การที่ครูจะตัดสินใจว่าควรพัฒนาสื่อการเรียนการสอนใหม่หรือไม่ขึ้นอยู่กับประเภทของบทเรียน สื่อการเรียนการสอนที่มีอยู่แล้ว และทรัพยากรที่หาได้ในโรงเรียน
8) ออกแบบและประเมินความก้าวหน้า 
หมายถึง การประเมินในระหว่างการเรียนการสอน มี จุดประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงการเรียนการสอน การประเมินความก้าวหน้า แบ่งได้ เป็น 3 ลักษณะ คือ การประเมินผู้เรียนเป็นรายบุคคลแบบตัวต่อตัวการประเมินผู้เรียนเป็นกลุ่มย่อยและกาประเมินภาคสนาม แต่ละวิธีทำให้ได้ข้อมูลที่นำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนเป็นลำดับ
9) การปรับปรุงการสอน
ข้อมูลจากการประเมินความก้าวหน้านำมาใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงการเรียนการสอนข้อมูลเหล่านี้ทำให้ทราบอุปสรรคของผู้เรียนที่ประสบในระหว่างการเรียนซึ่งทำให้ผู้เรียนไม่สามารถบรรลุจุดประสงค์การเรียนที่กำหนดไว้ได้นอกจากนำข้อมูลจากการประเมินมาปรับปรุงการเรียนการสอนแล้วข้อมูลดังกล่าวยังช่วยในการตรวจสอบความถูกต้องของการวิเคราะห์พฤติกรรมและคุณลักษณะของผู้เรียนที่จำเป็นต้องมีก่อนเริ่มการเรียนอีกด้วยซึ่งนำไปสู่การปรับปรุง จุดประสงค์การเรียนรู้เชิงปฏิบัติให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ
10) การประเมินผลสรุป 
หมายถึง การประเมินภายหลังสิ้นสุดการเรียนการสอนซึ่งเป็นการประเมินประสิทธิภาพและคุณภาพโดยรวมของการเรียนการสอนทั้งหมดการประเมินผลสรุปไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการออกแบบการสอน  ขั้นตอนการออกแบบการเรียนการสอนจะสิ้นสุดเมื่อได้มีการพัฒนาปรับปรุงจากผลการประเมินความก้าวหน้าโดยทั่วไปการประเมินผลสรุปนี้มักเป็นการประเมินจากผู้ประเมินอิสระจากภายนอกไม่เกี่ยวข้องกับผู้ออกแบบการเรียนการสอน องค์ประกอบของกิจกรรมทั้ง 10 ประการมีความสัมพันธ์อย่างเป็นระบบในเชิงเส้นตรง สำหรับรูปแบบการออกแบบการเรียนการสอนที่จะนำเสนอรายละเอียดของการดำเนินงานความสัมพันธ์ของหลักสูตรและการออกแบบการเรียนการสอนสิ่งที่ต้องดำเนินการก่อนการออกแบบการเรียนการสอน คือ การวิเคราะห์หลักสูตร เพราะ หลักสูตรเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญซึ่งจะบอกให้เราทราบว่า ผู้เรียนควรรู้อะไรและทำอะไรได้ หรือ บอก ผลการเรียนรู้ที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ต้องยึดถือในการออกแบบการเรียน การสอน สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งโรงเรียนยึดถือเป็น กรอบแนวทางในการจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียนในปัจจุบันนั้น ได้กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ ไว้ 8 กลุ่มสาระ การวิเคราะห์ตัวชี้วัดเหล่านี้จะทำให้ทราบว่า ผู้เรียนควรจะมีความรู้อะไรและสามารถปฏิบัติสิ่งใดได้ ซึ่งนำมาใช้ในการกำหนดผลการเรียนรู้และ เนื้อหาการเรียนรู้ ซึ่งนำมาจัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้ที่ประกอบด้วยโครงสร้างของเนื้อหา และเวลาที่ กำหนดไว้สำหรับการจัดการเรียนการสอน จากหน่วยการเรียนรู้พัฒนาต่อไปเป็นบทเรียนและแผนการเรียน การสอนประจำบทเรียน ที่มีจุดประสงค์การเรียนรู้แตกรายละเอียดย่อยออกมาจากผลการเรียนรู้เป็น เป้าหมายในการจัดการเรียนการสอน จะเห็นว่าการพัฒนาหลักสูตรเป็นกิจกรรมที่มีความสัมพันธ์กับกาออกแบบการเรียนการสอน การออกแบบการเรียนการสอนมีขอบเขตของการดำเนินการแตกต่างกัน ตั้งแต่การออกแบบ การเรียนการสอนเป็นรายแผน ไปจนถึงการออกแบบการเรียนการสอนทั้งหน่วยการเรียนรู้และทั้งรายวิชา ขอบเขตในการดำเนินงานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนนี้ ทำให้มีความซับซ้อน และยุ่งยากในการดำเนินงาน แตกต่างกันเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามรูปแบบในการออกแบบการเรียนการสอนทั่วไปยังคงนำมาประยุกต์ใช้ได้กับการดำเนินงานสิ่งสำคัญที่ต้องยึดเป็นหลักในการดำเนินการออกแบบการเรียนการสอนคือการยึดผลการเรียนรู้จุดประสงค์การเรียนรู้เป็นเป้าหมายในการดำเนินงาน ขั้นตอนในการนำหลักสูตรไปสู่การออกแบบการเรียนการสอนมีดังนี้
1) การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดเป็นผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
2) การกำหนดหน่วยการเรียนรู้หรือหัวข้อการเรียนรู้ และกำหนดผลการเรียนรู้ของแต่ละหน่วยการเรียนรู้และเวลาที่จะต้องใช้
 3) การกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ของหน่วยการเรียนรู้แต่ละหน่วย
4) การแตกหน่วยการเรียนรู้เป็นบทเรียนย่อยและกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
5) วางแผนการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการออกแบบการเรียนการสอนตามรูปแบบ   การออกแบบการเรียนการสอนที่ยึดถือ นับจากขั้นนี้ไป หลักสูตรก็พร้อมที่จะนำไปใช้สำหรับการเรียนการสอนในห้องเรียน โดยครูใช้กระบวนการออกแบบการเรียนการสอนในการพัฒนาแผนการเรียนการสอน กิจกรรมการเรียนการสอน สื่อการเรียนการสอน และการประเมินผลผู้เรียน ซึ่งเป็นองค์ประกอบการเรียนการสอนที่นำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกแบบการเรียนการสอนการออกแบบการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบดำเนินการโดยผู้มีความรู้ ความชำนาญใน การออกแบบและได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะเช่นเดียวกับนักออกแบบในอาชีพอื่นๆ หน่วยงานที่มัก ใช้นักออกแบบการเรียนการสอนมืออาชีพมักจะเป็นหน่วยงานที่หวังผลการปฏิบัติที่แน่นอนและผลการดำเนินงานมีผลกระทบอย่างกว้างขวาง เช่น ในองค์กรธุรกิจที่ต้องการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อ การค้า บริษัทที่มีฝ่ายฝึกอบรมบุคลากรหรือบริษัทที่ทำหน้าที่ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลหน่วยทหารที่ต้องการฝึกทหารเข้าประจำการรบ การใช้อาวุธและอุปกรณ์การรบเฉพาะอย่าง เป็นต้น การนำแนวคิดเชิงระบบมาใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนนั้น จุดประสงค์หลักก็คือการนำสิ่งที่ออกแบบไว้ไปใช้ได้อย่างกว้างขวาง เป็นประโยชน์ต่อคนจำนวนมาก ช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและ ทรัพยากร อีกทั้งหวังผลการปฏิบัติที่ดีเลิศซึ่งสามารถตรวจสอบผลได้(Dick, Carey, & Carey, 2001, p. 11) แต่สำหรับการนำแนวคิดเรื่องการออกแบบการเรียนการสอนเชิงระบบมาใช้ในการจัดการเรียน การสอน และให้ครูเป็นผู้ใช้นั้น ครูอาจนำแนวคิดนี้ไปใช้เพียงบางส่วน แต่อย่างน้อยเมื่อครูได้ทราบและ นำไปใช้ก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเรียนการสอนให้มีคุณภาพไม่มากก็น้อย ความคาดหวังให้ ครูใช้การออกแบบการเรียนการสอนเชิงระบบอย่างเข้มข้นเหมือนนักวิจัยที่ทำงานด้านการออกแบบ การเรียนการสอนโดยเฉพาะนั้นคงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม แต่ควรให้ครูเป็นนักออกแบบที่พร้อมจะ ปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดการประกอบวิชาชีพของครูดังนั้นในเอกสารฉบับนี้จึงให้ความรู้และแนวคิดในด้านการออกแบบและพัฒนาการเรียนการสอนอย่างกว้างขวางเพื่อเปิดมุมมองในด้านการออกแบบ และพัฒนาการเรียนการสอนสำหรับผู้ปฏิบัติการสอนในโรงเรียนนำไปใช้พัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน ให้มีคุณภาพสมรรถภาพของผู้ออกแบบการเรียนการสอน
การออกแบบการเรียนการสอนเป็นกระบวนการทางเชาว์ปัญญา ที่ต้องการทักษะความคิดในระดับสูงในการปฏิบัติกิจกรรมที่ต้องเกี่ยวข้องกับทักษะ ความถนัด ตลอดจนการฝึกอบรมและการศึกษา ในการพัฒนาสมรรถภาพของการออกแบบการเรียนการสอน ผู้พัฒนาพยายามที่จะปรับปรุงความถนัดพื้นฐานในสาขาของตน               
การออกแบบการเรียนการสอนต้องอาศัยความถนัด  ดังนี้
1.ผู้ออกแบบการเรียนการสอนจำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถในการคิดทั้งในเชิงรูปธรรมและนามธรรม งานออกแบบเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบความคิดที่มีความคงเส้นคงวา มีเหตุมีผล ในเวลาเดียวกัน
           2.ผู้ออกแบบต้องมีความสนุกสนานในการทำงานด้วยแบบจำลอง ที่นำเสนอด้วยทัศนะและการเขียน
        3.ผู้ออกแบบจำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจภาระงานและสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นให้ได้ผลิตผล
กานเย่ได้พรรณนาคุณลักษณะบุคคลของนักผู้ออกแบบการเรียนการสอนดังนี้
               1.เจตคติหรือค่านิยม(Attitude or Values)
               2.ความรู้เฉพาะทาง(Specialized Knowledge)
               3.ทักษะเชาว์ปัญญา(Intellectual Skills)

สัปดาห์ที่ 2 powerpoint

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น